จัดฟัน ใกล้ฉัน ที่ไหนดี? จัดฟัน ราคา เท่าไหร่? ใครควรจัดฟัน?

จัดฟัน ใกล้ฉัน

จัดฟัน ใกล้ฉัน ที่ไหนดี?

กำลังมองหาคลินิก จัดฟัน ใกล้ฉัน อยู่ใช่ไหม? ที่ คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ เราเข้าใจดีว่าการมีสุขภาพช่องปากที่ดีและฟันที่เรียงสวยเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ฟันแท้ของเรามีเพียงชุดเดียว การดูแลรักษาให้มีสุขอนามัยที่ดีอยู่เสมอจึงสำคัญอย่างยิ่ง

ก่อนคุณจะตัดสินใจจัดฟัน เราขอชวนมาอ่านบทความที่จะมาไขข้อสงสัยว่า จัดฟัน ใกล้ฉัน ที่ไหนดี? จัดฟัน คืออะไร? จัดฟัน ราคา เท่าไหร? และจัดฟัน แบบไหน? ที่เหมาะกับเรา

หากคุณกำลังมองหา คลินิกจัดฟัน ใกล้ฉัน ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และราคาไม่แพง คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ พร้อมให้คำปรึกษาฟรี โดยทีมทันตแพทย์เฉพาะทาง

นัดปรึกษาฟรีวันนี้! โทร 092-749-2829 หรือจองคิวออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เพียงคลิกที่ปุ่มลงนัดคิว พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ที่จองผ่านเว็บไซต์เท่านั้น

คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ – พร้อมดูแลรอยยิ้มของคุณ จัดฟันใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน สะดวกทุกการเดินทาง

ที่ตั้ง: สุขุมวิท 21 (อโศก) >> https://maps.app.goo.gl/xrKMimvAuw1s8HSG6 <<

BTS อโศก ทางออก 3 หรือ MRT สุขุมวิท ทางออก 1 เดินเพียง 5 นาที!

โปรโมชั่นจัดฟัน ที่คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์

โปรจัดฟันเริ่มต้น 999 บาท!

จัดฟันกับเฮย์สไมล์ เริ่มต้นเริ่มต้นเพียง 999 บาท

ของแถม 10 รายการ! (รวมมูลค่ากว่า 20,000 บาท)

  • ฟรี! รีเทนเนอร์ มูลค่า 5,000 บาท
  • ฟรี! ค่าติดเครื่องมือ มูลค่า 3,000 บาท
  • ฟรี! ถ่าย X-ray ฟิล์มใหญ่ มูลค่า 2,000 บาท
  • ฟรี! ถ่าย X-ray ฟิล์มใหญ่ (ด้านข้าง)
  • ฟรี! ถ่าย X-ray ฟิล์มใหญ่ (หน้าตรง)
  • ฟรี! ถ่าย X-ray ฟิล์มเล็กเช็คฟันผุ 2 ฟิล์ม
  • ฟรี! ประเมินฟันโดยคุณหมอจัดฟันเฉพาะทาง
  • ฟรี! ค่าติดเครื่องมือหลุด 3 ตัว มูลค่า 900 บาท
  • ฟรี! ส่วนลดค่าเคลียร์ช่องปาก 10 %
  • ฟรี! เซตทำความสะอาดช่องปาก 1 เซต

จัดฟัน สารบัญความรู้ คลิกอ่านตามหัวข้อ


จัดฟัน คืออะไร ?

การจัดฟัน (Orthodontics) ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำฟันให้สวยงาม (cosmetic dentistry) เท่านั้น แต่ยังเป็นศาสตร์ทางทันตกรรมที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์ วินิจฉัย วางแผน ป้องกัน และรักษาความผิดปกติของการเรียงตัวของฟัน การสบฟัน รวมถึงความสัมพันธ์กับขากรรไกรและใบหน้า เพื่อให้เกิด:

  • การสบฟันที่ดีขึ้น: ฟันบนและฟันล่างสบกันอย่างเหมาะสม ช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพ
  • สุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น: ลดความเสี่ยงของฟันผุและโรคเหงือกที่เกิดจากฟันเรียงตัวผิดปกติ ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น
  • ป้องกันการสึกของฟัน: หลีกเลี่ยงการสึกกร่อนของฟันที่เกิดจากการเรียงตัวหรือการสบฟันที่ไม่ถูกต้อง

ยิ่งไปกว่านั้น การจัดฟันยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับรอยยิ้มและบุคลิกภาพ จากการมีฟันที่เรียงตัวสวยงาม

คำแนะนำจากทีมทันตแพทย์เฮย์สไมล์: การจัดฟันต้องดำเนินการโดยทันตแพทย์เฉพาะทางด้านจัดฟัน ในคลินิกทันตกรรมเฉพาะทาง หรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อความสวยงามและความปลอดภัย ปรึกษากับทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่เฮย์สไมล์ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

จัดฟัน คืออะไร
จัดฟัน คืออะไร

ใครควร จัดฟัน ? ไขทุกปัญหาการเรียงตัวและการสบฟันผิดปกติ

สงสัยไหมว่าลักษณะฟันแบบไหนที่ควรเข้ารับการ “จัดฟัน”? การ “จัดฟัน” ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและการสบฟันที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก การบดเคี้ยว และความมั่นใจของคุณ มาดูกันว่าฟันลักษณะใดบ้างที่การ “จัดฟัน” สามารถช่วยแก้ไขได้:

1. ฟันซ้อน ฟันเอียง หรือฟันบิด:

นี่คือปัญหาหลักที่ทำให้หลายคนตัดสินใจเข้ารับการ “จัดฟัน” หากฟันของคุณ ซ้อนเก กันมากจนทำความสะอาดได้ยาก เพิ่มความเสี่ยงฟันผุและโรคเหงือก หรือ ฟันเอียง บดบังฟันซี่อื่น หรือ ฟันบิด ทำให้รอยยิ้มไม่สวยงาม การ “จัดฟัน” สามารถช่วยให้ฟันเหล่านี้กลับมาเรียงตัวเป็นระเบียบได้

ในกรณีที่ฟันซ้อนกันมาก ทันตแพทย์อาจพิจารณา ถอนฟัน บางซี่ออก ตะไบฟัน เพื่อลดขนาด หรือ ขยายขากรรไกร เพื่อสร้างพื้นที่ให้ฟันเคลื่อนที่ได้อย่างเหมาะสม

ฟันซ้อน ฟันเอียง หรือฟันบิด
ฟันซ้อน ฟันเอียง หรือฟันบิด

2. ฟันห่าง:

ปัญหา ฟันห่าง ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความสวยงามของรอยยิ้ม แต่ยังอาจทำให้เศษอาหารเข้าไปติดได้ง่าย การ “จัดฟัน” สามารถ ช่วยเคลื่อนฟันให้ชิดกัน ลดช่องว่างระหว่างฟัน สร้างรอยยิ้มที่มั่นใจยิ่งขึ้น และลดโอกาสเกิดปัญหาช่องปาก

ฟันห่าง
ฟันห่าง

3. ฟันเบี้ยว หรือ ฟันกัดเบี้ยว (ฟันไม่ตรง):

ภาวะที่ กึ่งกลางของฟันบนและฟันล่างไม่ตรงกัน หรือที่เรียกว่า ฟันกัดเบี้ยว ส่งผลให้การบดเคี้ยวอาหารไม่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดการปวดเมื่อยบริเวณขากรรไกร การ “จัดฟัน” สามารถ แก้ไขแนวฟันให้ตรงกัน ช่วยให้การสบฟันดีขึ้น และลดปัญหาที่อาจตามมา

ฟันเบี้ยว
ฟันเบี้ยว หรือ ฟันกัดเบี้ยว (ฟันไม่ตรง)

4. ฟันสบลึก (Deep Bite):

ลักษณะของ ฟันบนสบลงมาคลุมฟันล่างมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาในการบดเคี้ยว ฟันหน้าล่างสึก หรือมีปัญหาบริเวณเหงือก การ “จัดฟัน” สามารถ ปรับระดับฟันให้สบกันอย่างเหมาะสม ลดแรงกดที่ฟันหน้า และการใช้งาน

ฟันสบลึก Deep Bite 1
ฟันสบลึก (Deep Bite)

5. ฟันสบคร่อม (Cross Bite):

ภาวะที่ ฟันล่างคร่อมฟันบน อาจส่งผลต่อการบดเคี้ยว การพูด และการเจริญเติบโตของขากรรไกร การ “จัดฟัน” สามารถ แก้ไขให้ฟันบนและฟันล่างสบกันในตำแหน่งที่ถูกต้อง

ฟันสบคร่อม Cross Bite
ฟันสบคร่อม (Cross Bite)

6. ฟันสบเปิด (Open Bite) หรือ ฟันไม่สบกัน:

ลักษณะที่ ฟันบนและฟันล่างไม่สามารถสบสัมผัสกันได้ มักเกิดขึ้นบริเวณฟันหน้า ทำให้มีปัญหาในการกัดอาหาร การพูดไม่ชัด หรืออาจมีนิสัยชอบแลบลิ้น การ “จัดฟัน” สามารถ ช่วยให้ฟันบนและฟันล่างสบกันได้อย่างเหมาะสม

ฟันสบเปิด Open Bite หรือ ฟันไม่สบกัน
ฟันสบเปิด (Open Bite) หรือ ฟันไม่สบกัน

จัดฟัน มีกี่แบบ ? เลือกให้เหมาะกับเรา

รูปแบบการจัดฟันหลักๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  1. การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ: เป็นวิธีที่นิยมและมีประสิทธิภาพสูง โดยเครื่องมือจะติดแน่นอยู่บนผิวฟัน
  2. การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ: เป็นการจัดฟันแบบถอดได้ ผู้เข้ารับบริการหลายคนอาจคุ้นเคยในชื่อ Invisalign

ทั้ง 2 ประเภทนี้ยังมีเครื่องมือจัดฟันให้เลือกอีก 4 แบบหลักๆ ดังนี้:

1. จัดฟันแบบโลหะ (Metal)

เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น เครื่องมือทำจากโลหะ ติดตั้งที่ผิวด้านหน้าของฟัน มีลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยางโอริง (O-ring) สีสันสดใสรัดเครื่องมือกับลวด ต้องปรับเครื่องมือทุกเดือน

ข้อดี:

  • ทนทาน ทำความสะอาดง่าย (คราบอาหารและจุลินทรีย์ติดยาก)
  • ราคาเข้าถึงได้มากที่สุด
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและสามารถมาพบทันตแพทย์ได้สม่ำเสมอ

เหมาะกับ: นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่มีเวลามาปรับเครื่องมือทุกเดือน

จัดฟันแบบโลหะ Metal
จัดฟันแบบโลหะ (Metal)

2. จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic)

ใช้วัสดุเซรามิกใส ติดที่ผิวฟันด้านหน้า มีลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยางใสยึดเครื่องมือ ช่วยควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของฟัน สีใกล้เคียงกับฟัน ทำให้มองเห็นเครื่องมือน้อยลง

ข้อดี:

  • สวยงาม มองเห็นเครื่องมือน้อยกว่าแบบโลหะ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและบุคลิกภาพที่ดีในการทำงาน

เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการจัดฟันแต่ไม่อยากให้สังเกตเห็นชัดเจน และสามารถมาปรับเครื่องมือทุกเดือน

จัดฟันแบบเซรามิก Ceramic
จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic)

3. จัดฟันแบบใส

วิธีการจัดฟันแบบหนึ่งที่ใช้อุปกรณ์จัดฟันที่ทำจากวัสดุใส เช่น พลาสติกโพลียูรีเทน (polyurethane) หรือวัสดุคอมโพสิตเรซิน (composite resin) ที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับรูปฟันของแต่ละบุคคลอย่างแม่นยำ

ข้อดี:

  • มองไม่เห็นเครื่องมือ
  • สะดวกสบาย ถอดออกได้ง่าย
  • รับประทานอาหารและทำความสะอาดฟันได้ตามปกติ

เหมาะกับ: ดารา นักธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องการความมั่นใจสูงสุดขณะจัดฟัน เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน โดยเน้นความสวยงามและความสะดวกสบายเป็นหลัก

จัดฟันแบบใส
จัดฟันแบบใส

4. จัดฟันแบบดามอน (Damon)

ใช้ Bracket ชนิดดามอนซิสเต็ม ไม่ต้องใช้ยางรัด มีกลไกบานพับขนาดเล็กยึดลวดอย่างหลวมๆ ช่วยให้ฟันเคลื่อนที่

ข้อดี:

  • ไม่ต้องใช้ยางรัด ลดปัญหาเรื่องยางขาดและเสื่อมสภาพ
  • อาจไม่ต้องถอนฟันในบางกรณี
  • ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า และเจ็บน้อยกว่าแบบโลหะ
  • ดูแลทำความสะอาดฟันได้ง่าย ลดโอกาสฟันผุและเหงือกอักเสบ

เหมาะกับ: ทุกเพศทุกวัยที่ต้องการความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการจัดฟัน

จัดฟันแบบดามอน Damon 1
จัดฟันแบบดามอน (Damon)

จัดฟัน ดีไหม ? ไขข้อสงสัย ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง พร้อมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

หลายคนอาจมองว่า การจัดฟัน เป็นเพียงการปรับปรุง รอยยิ้มให้สวย เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจเท่านั้น แต่ในมุมมองของทันตแพทย์แล้ว การจัดฟันมีประโยชน์ต่อ สุขภาพช่องปาก และคุณภาพชีวิตมากกว่าที่คิด ทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่เฮย์สไมล์จะมาแชร์มุมมองว่า ทำไมต้องจัดฟัน และ การจัดฟันช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง เพื่อให้คุณเข้าใจและตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

อย่างแรก… จัดฟัน… ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม!

แน่นอนว่าการมี ฟันเรียงสวย ย่อมส่งผลดีต่อบุคลิกภาพและสร้างความประทับใจ แต่ประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ของการจัดฟันนั้น ครอบคลุมไปถึงสุขภาพร่างกายโดยรวม ดังนี้

  1. ลดความเสี่ยงปัญหาทันตกรรมกวนใจ:
    • ฟันเรียงเป็นระเบียบ ช่วยให้การ แปรงฟัน และ ใช้ไหมขัดฟัน เข้าถึงทุกซอกทุกมุมได้อย่างง่ายดาย
    • ลดการสะสมของคราบพลัคและเศษอาหาร ต้นเหตุของ โรคเหงือกอักเสบ และ ฟันผุ
    • การจัดฟันจึงเป็นการ ป้องกัน ปัญหาทันตกรรมอื่นๆ ในระยะยาว
  1. ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น:
    • การ สบฟันที่ถูกต้อง ช่วยให้คุณ เคี้ยวอาหารได้ละเอียด มากยิ่งขึ้น
    • ลดภาระการทำงานหนักของกระเพาะอาหารและลำไส้
    • บรรเทาอาการ ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดจุกท้อง และลดโอกาสเกิด กรดไหลย้อน
  1. ปกป้องกระดูกขากรรไกร:
    • แรงบดเคี้ยวที่เหมาะสมจะ กระตุ้นการสร้างและรักษาความแข็งแรงของกระดูกขากรรไกร
    • การจัดฟันช่วยให้แรงกระจายตัวอย่างสมดุล ลดความเสี่ยงการ ละลายของกระดูกขากรรไกร ในบริเวณที่รับแรงมากเกินไป
  1. เพิ่มความมั่นใจในการสื่อสาร:
    • การเรียงตัวของฟันมีผลต่อการออกเสียงบางพยัญชนะ เช่น ฟ ฟัน, ส เสือ, ซ โซ่
    • การจัดฟัน สามารถช่วยให้ ออกเสียงได้ชัดเจน และถูกต้องยิ่งขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการพูดคุย
  1. ปรับรูปหน้าให้สมดุล:
    • ในบางกรณี โดยเฉพาะการจัดฟันร่วมกับการถอนฟัน จะช่วย ลดความอูมของริมฝีปาก ทำให้ใบหน้าดูเรียวและสมส่วนขึ้น
  1. เติมเต็มความมั่นใจในรอยยิ้ม:
    • เมื่อ จัดฟัน เสร็จสิ้น คุณจะได้ รอยยิ้มที่สวยงาม และมั่นใจมากยิ่งขึ้น
    • ความมั่นใจนี้เป็นเหมือนเสน่ห์ที่ติดตัวคุณไปตลอดชีวิต ส่งผลดีต่อทั้งการเข้าสังคมและการดำเนินชีวิต

อยากรู้ว่าควร จัดฟัน ดีไหม? ลองเข้ามาปรึกษากับทีมทันตแพทย์เฉพาะทางด้านการจัดฟันที่เฮย์สไมล์ได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย! พร้อมให้คำแนะนำอย่างจริงใจกับคนไข้ทุกคน

จัดฟัน ดีไหม ไขข้อสงสัย ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง พร้อมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
จัดฟัน ดีไหม ไขข้อสงสัย ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง พร้อมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

จัดฟัน ครั้งแรก เริ่มต้นอย่างไร?

สำหรับผู้ที่ “จัดฟัน ครั้งแรก” ทันตแพทย์แนะนำให้ เข้ารับการปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันโดยเฉพาะ ในคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อตรวจประเมินสภาพช่องปากและฟันอย่างละเอียด ที่ คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ ทุกคนจะได้รับการตรวจและให้ข้อมูลที่ครอบคลุม เพื่อให้คุณเข้าใจถึงแนวทางการรักษาและเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง โดยทุกเคส ปรึกษาและวางแผนเบื้องต้น ฟรี!

สิ่งที่จะได้รับจากการปรึกษา จัดฟัน ครั้งแรก ที่คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์:

1. การประเมินสุขภาพช่องปากของคุณ (ฟรี): ทันตแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบว่า:

    • มีฟันผุหรือไม่: หากมีฟันผุ จะต้องทำการรักษาให้เรียบร้อยก่อนเริ่มการ “จัดฟัน”
    • มีเหงือกอักเสบหรือไม่: สุขภาพเหงือกที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ หากมีเหงือกอักเสบจะต้องทำการรักษา
    • มีฟันคุดที่ต้องจัดการหรือไม่: ฟันคุดที่อาจส่งผลกระทบต่อการเรียงตัวของฟันในอนาคต อาจต้องได้รับการถอนออกก่อน การประเมินสุขภาพช่องปากนี้จะช่วยให้การ “จัดฟัน” เป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา

2. การเอ็กซเรย์ภายนอกและภายในช่องปาก: เพื่อช่วยในการวางแผนการรักษาที่แม่นยำ ทันตแพทย์อาจทำการเอ็กซเรย์ฟันทั้งภายนอก (Panoramic) และภายในช่องปาก (Intraoral) การเอ็กซเรย์จะช่วยให้เห็น:

      • ตำแหน่งและลักษณะของฟัน: รวมถึงฟันที่ยังไม่ขึ้น
      • โครงสร้างของขากรรไกร: เพื่อประเมินการสบฟัน
      • สภาพของรากฟันและกระดูกรอบรากฟัน: เพื่อวางแผนการเคลื่อนที่ของฟันอย่างปลอดภัย

3. การเลือกชนิดของการจัดฟันที่เหมาะสม: คุณอาจมีชนิดของการ “จัดฟัน” ที่สนใจอยู่แล้ว แต่ในการปรึกษา ทันตแพทย์จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ:

        • ข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภท: เช่น จัดฟันแบบโลหะ, จัดฟันเซรามิก, จัดฟันแบบใส (Invisalign), จัดฟันแบบดามอน (Damon)
        • ความเหมาะสมกับสภาพฟันและปัญหาการสบฟันของคุณ: ทันตแพทย์จะแนะนำชนิดของการ “จัดฟัน” ที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
        • งบประมาณและไลฟ์สไตล์ของคุณ: เพื่อให้คุณสามารถเลือกชนิดของการ “จัดฟัน” ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างลงตัว

4. แผนการรักษาคร่าว ๆ: ทันตแพทย์จะอธิบายถึงแนวทางการรักษาเบื้องต้นให้คุณทราบ เช่น:

          • ระยะเวลาในการจัดฟันโดยประมาณ: ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาฟันของคุณ
          • ความจำเป็นในการถอนฟัน: หากมีฟันซ้อนเกมาก อาจต้องถอนฟันบางซี่เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการเรียงฟัน
          • การใช้เครื่องมือพิเศษ (ถ้ามี): ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องใช้เครื่องมือเสริม เช่น มินิสกรู (Mini screw) หรือหมุดจัดฟัน เพื่อช่วยในการเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่ต้องการ

5. ราคา จัดฟัน ครั้งแรก และค่าใช้จ่ายโดยรวม: โดยปกติทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำคลินิกจะสามารถประเมิน:

            • ราคาค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ช่องปาก: ค่าอุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน (ถ้ามี)
            • ราคาค่าจัดฟันโดยรวม: ตามแผนการรักษาและชนิดของการ “จัดฟัน” ที่คุณเลือก
            • รูปแบบการชำระเงิน: รวมถึงโปรโมชั่นหรือแผนการผ่อนชำระ (ถ้ามี)
จัดฟัน ครั้งแรก เริ่มต้นอย่างไร
จัดฟัน ครั้งแรก เริ่มต้นอย่างไร

ขั้นตอน จัดฟัน เบื้องต้น มีอะไรบ้าง?

  1. ปรึกษาทันตแพทย์: ตรวจวินิจฉัยปัญหา ซักประวัติ และรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการจัดฟันต่างๆ
  2. วางแผนการจัดฟัน: เลือกวิธีที่เหมาะสม ทราบค่าใช้จ่าย และพิมพ์ปากเพื่อสร้างแบบจำลองฟัน
  3. ถ่ายภาพ X-ray: เพื่อประเมินฟัน กระดูกขากรรไกร และการสบฟัน
  4. เคลียร์ช่องปาก: อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน หรือผ่าฟันคุด (ถ้าจำเป็น)
  5. นัดติดเครื่องมือ: ติดตั้งเครื่องมือจัดฟัน (สำหรับแบบติดเครื่องมือ) หรือรับเครื่องมือ (สำหรับแบบไม่ติดเครื่องมือ)
  6. ดูแลช่องปากและฟันระหว่างจัดฟัน: แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน และเข้าพบทันตแพทย์ตามนัด
  7. นัดถอดเครื่องมือ: เมื่อฟันเรียงตัวตามแผน จะถอดเครื่องมือและใส่รีเทนเนอร์
  8. ติดตามผล: พบทันตแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจสอบการใส่รีเทนเนอร์

จัดฟัน ที่ไหนดี ? คำแนะนำจาก คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์

การเลือกคลินิกจัดฟันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ พร้อมเป็นอีกทางเลือกที่คุณสามารถพิจารณา เพราะ:

  • ทันตแพทย์เฉพาะทาง: ทีมทันตแพทย์จัดฟันของเราจบเฉพาะทาง มีประสบการณ์ และพร้อมให้คำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง
  • เดินทางสะดวก: คลินิกตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก
  • แบ่งจ่ายสบายๆ: ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสามารถแบ่งชำระเป็นรายเดือนได้
  • หลากหลายทางเลือก: มีวิธีการจัดฟันให้เลือกหลายแบบ
จัดฟัน ที่ไหนดี คำแนะนำจาก คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์
จัดฟัน ที่ไหนดี ? คำแนะนำจาก คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์

เตรียมตัวก่อน จัดฟัน ครั้งแรก : 6 สิ่งที่คุณควรรู้

แน่นอนว่าทุกคนที่ จัดฟัน ครั้งแรก ตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงรอยยิ้มครั้งใหม่ด้วยการ “จัดฟัน” แต่ไม่ต้องกังวลไป ทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่เฮย์สไมล์มีคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการ “เตรียมตัวก่อนจัดฟัน” เพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการเริ่มต้นการรักษาได้อย่างราบรื่นและสบายใจ

6 สิ่งที่คุณควรรู้และเตรียมตัวก่อน “ติดเครื่องมือจัดฟัน”:

  1. มั่นใจว่า “เคลียร์ช่องปาก” เรียบร้อยแล้ว: ก่อน “ติดเครื่องมือจัดฟัน” สุขภาพช่องปากที่ดีและแข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเมื่อมีเครื่องมือในช่องปาก การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันจะทำได้ยากขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของทันตแพทย์ครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการอุดฟัน ขูดหินปูน รักษารากฟัน หรือถอนฟันคุด

  2. ตุนอาหารอ่อนๆ ไว้ในตู้เย็น: หลัง “ติดเครื่องมือจัดฟัน” คุณอาจมีอาการปวดหรือไม่สบายในช่องปาก เนื่องจากร่างกายยังไม่ปรับตัว เตรียมอาหารอ่อนๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยวมาก เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม โยเกิร์ต สมูทตี้ผลไม้ หรือซุป ไว้ในตู้เย็น เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานในช่วงแรก

  3. เตรียมยาแก้ปวดและขี้ผึ้งจัดฟันให้พร้อม: ในช่วงแรกหลัง “ติดเครื่องมือจัดฟัน” อาการปวดสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน นอกจากนี้ ขี้ผึ้งจัดฟัน จะช่วยลดการระคายเคืองของเครื่องมือกับเนื้อเยื่อในช่องปาก เตรียมยาและขี้ผึ้งไว้ใกล้มือเพื่อความสะดวก

  4. หาเพื่อนหรือคนในครอบครัวมาเป็นกำลังใจและรับส่ง: การ “ติดเครื่องมือจัดฟัน” ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที หลังเสร็จสิ้น คุณอาจรู้สึกไม่สบายหรือปวด การมีเพื่อน คนรู้ใจ หรือคนในครอบครัว มาเป็นเพื่อน ให้กำลังใจ และช่วยขับรถรับส่ง จะช่วยให้คุณรู้สึกอุ่นใจและสะดวกสบายมากขึ้น

  5. เช็คตารางงานและพักผ่อนให้เพียงพอ: อาการปวดหลัง “ติดเครื่องมือจัดฟัน” อาจเป็นอยู่หลายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการ “จัดฟันครั้งแรก” ซึ่งอาจส่งผลต่อสมาธิในการทำงาน หากเป็นไปได้ ควรลาหยุดงาน หรือหลีกเลี่ยงงานสำคัญที่ต้องใช้สมาธิเยอะ พูดมาก หรือทานอาหารลำบาก ในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและปรับตัว

  6. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วงแรก: ในช่วงที่ร่างกายยังปรับตัวหลัง “ติดเครื่องมือจัดฟัน” คุณอาจรับประทานอาหารได้น้อยลง ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยกว่าปกติ ควรงดเว้นการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมาก ไปก่อน เพื่อป้องกันอาการอ่อนเพลีย

การเตรียมตัวที่ดีก่อน “จัดฟัน” จะช่วยให้คุณเริ่มต้นการรักษาได้อย่างราบรื่น ลดความกังวล และพร้อมสำหรับการมีรอยยิ้มที่สวยงามและมั่นใจในอนาคต หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ “เตรียมตัวก่อนจัดฟัน” อย่าลังเลที่จะสอบถามกับทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่เฮย์สไมล์ ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

จัดฟัน นานแค่ไหน ? ไขทุกข้อสงสัยเรื่องระยะเวลาการจัดฟัน

“เมื่อไหร่จะจัดฟันเสร็จ?” มักจะเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่กำลังเข้ารับการ “จัดฟัน” หรือกำลังตัดสินใจที่จะจัด โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาในการจัดฟันจะอยู่ที่ 1-3 ปี แต่ระยะเวลาที่แน่นอนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ทันตแพทย์จะต้องพิจารณาอย่างละเอียด

ปัจจัยหลักที่มีผลต่อระยะเวลาในการจัดฟัน:

  1. สภาพฟันเริ่มต้น: หากฟันมีการ เรียงตัวผิดปกติมาก เช่น ฟันซ้อนเกเยอะ ฟันยื่นมาก หรือเป็นการ จัดฟัน ครั้งแรก มักจะต้องใช้เวลาในการเคลื่อนฟันนานกว่าผู้ที่มีปัญหาไม่ซับซ้อน หรือผู้ที่ จัดฟัน รอบสอง เพื่อแก้ไขปัญหาเล็กน้อย

  2. การสบฟันที่ผิดปกติร่วมด้วย: การ “จัดฟัน” ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่การเรียงตัวของฟันให้สวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการ แก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ เช่น ฟันสบลึก ฟันสบเปิด ฟันสบคร่อม ซึ่งการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อาจต้องใช้เวลาเพิ่มเติม

  3. แผนการรักษา: สำหรับ แผนการรักษา ที่ทันตแพทย์วางไว้มีผลต่อระยะเวลาโดยตรง หากจำเป็นต้อง ถอนฟัน เพื่อสร้างพื้นที่ในการเคลื่อนฟัน ก็จะต้องมีระยะเวลาในการรอให้ช่องว่างปิดสนิท ซึ่งจะทำให้การจัดฟันโดยรวมใช้เวลานานขึ้น

  4. ชนิดของการจัดฟันที่เลือก: ชนิดของเครื่องมือจัดฟัน ก็มีผลต่อความเร็วในการเคลื่อนที่ของฟัน เช่น

    • จัดฟันแบบโลหะ: จะออกแรงได้ดีในช่วงแรก แต่ต้องอาศัยการปรับเครื่องมือโดยทันตแพทย์เป็นระยะ
    • จัดฟันแบบ Self-Ligating (เช่น Damon): สามารถออกแรงเคลื่อนฟันได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น และอาจใช้เวลาน้อยกว่า
    • จัดฟันใส (เช่น Invisalign): ออกแรงเคลื่อนฟันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และอาจให้ผลลัพธ์ที่เร็วกว่าในบางกรณี

     

  5. การดูแลสุขภาพช่องปาก: การ “จัดฟัน” แบบติดเครื่องมือทำให้การ ดูแลสุขภาพช่องปาก ยากขึ้น หากเกิดปัญหา ฟันผุ หรือ เหงือกอักเสบ ทันตแพทย์อาจต้องชะลอการจัดฟันเพื่อทำการรักษา ซึ่งจะส่งผลให้ระยะเวลาการจัดฟันยาวนานขึ้น การดูแลช่องปากที่ดีจึงช่วยให้การจัดฟันเป็นไปตามแผน

  6. ความร่วมมือในการรักษาของคุณ: ความร่วมมือของผู้ป่วยเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดระยะเวลาการจัดฟัน การ ดึงยางจัดฟัน อย่างสม่ำเสมอ การ มาพบทันตแพทย์ตามนัด และการ ใส่เครื่องมือจัดฟันใสอย่างต่อเนื่อง (สำหรับผู้ที่จัดฟันใส) จะช่วยให้การรักษาเป็นไปตามแผน หากคุณไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ระยะเวลาการจัดฟันก็จะยาวนานขึ้น

  7. อายุของคุณ: โดยทั่วไปแล้ว คนไข้อายุน้อย จะมีการเคลื่อนที่ของฟันที่เร็วกว่า คนไข้อายุมาก เนื่องจากกระดูกและเนื้อเยื่อรอบฟันมีความยืดหยุ่นมากกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่วัยมากก็สามารถจัดฟันได้ เพียงแต่อาจใช้เวลานานกว่า

  8. อาหาร: การรับประทาน อาหารที่แข็งหรือเหนียว อาจทำให้เครื่องมือจัดฟันเสียหาย ซึ่งหากเกิดขึ้นบ่อยๆ จะส่งผลให้การจัดฟันต้องใช้เวลานานขึ้น การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมจึงสำคัญ

  9. ยาที่คุณรับประทาน: ยาบางชนิด สามารถส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของฟัน เช่น ยาแก้ปวดแก้อักเสบ NSAIDs, ยากลุ่มสเตียรอยด์ และยากดภูมิคุ้มกัน อาจทำให้ฟันเคลื่อนที่ช้าลง ในขณะที่ยาเพิ่มไทรอยด์และวิตามินดี อาจทำให้ฟันเคลื่อนที่เร็วขึ้น การแจ้งประวัติการใช้ยาให้ทันตแพทย์ทราบจึงสำคัญ

ดังนั้น การจะทราบระยะเวลาการจัดฟันที่แม่นยำที่สุด คุณควรเข้ารับการปรึกษาและตรวจวินิจฉัยกับทันตแพทย์จัดฟันโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพฟัน วางแผนการรักษา และให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่คาดการณ์ได้สำหรับคุณ

จัดฟัน นานแค่ไหน ไขทุกข้อสงสัยเรื่องระยะเวลาการจัดฟัน
จัดฟัน นานแค่ไหน? ไขทุกข้อสงสัยเรื่องระยะเวลาการจัดฟัน

ดูแลตัวเองอย่างไร? สำหรับคน “จัดฟัน” ให้ฟันสวย สุขภาพดีตลอดการรักษา

เมื่อคุณเริ่มต้นการเดินทางสู่รอยยิ้มที่สวยงามด้วยการ “จัดฟัน” การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่เฮย์สไมล์มีคำแนะนำเกี่ยวกับ “การดูแลตัวเองในช่วงจัดฟัน” ทั้งสิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้คุณมีสุขภาพช่องปากที่ดีตลอดระยะเวลาการรักษา

สิ่งที่ “ควรทำ” ในช่วงจัดฟัน:

  1. แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ: แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน หรือ ให้ดีที่สุดคือแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อกำจัดเศษอาหารและคราบพลัคที่อาจติดอยู่บริเวณเครื่องมือจัดฟัน การแปรงฟันอย่างถูกวิธีและทั่วถึงจะช่วยป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบ

  2. ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ: ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน เพื่อทำความสะอาดซอกฟันและบริเวณใต้ลวดจัดฟันที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง การใช้ไหมขัดฟันจะช่วยป้องกันการสะสมของคราบพลัคและลดความเสี่ยงของปัญหาเหงือก

  3. บ้วนปากหลังทานอาหารและเครื่องดื่ม: บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาบ้วนปาก หลังรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม (โดยเฉพาะที่มีน้ำตาล) เพื่อช่วยชะล้างเศษอาหารและลดความเป็นกรดในช่องปาก

  4. มาพบทันตแพทย์ตามนัดและปฏิบัติตามคำแนะนำ: การ “จัดฟัน” เป็นกระบวนการที่ต้องมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง มาพบทันตแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง และ ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การ ดึงยางจัดฟัน ตามระยะเวลาและวิธีการที่กำหนด เพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  5. สวมใส่ Mouth Guard สำหรับนักกีฬา: หากคุณเป็นนักกีฬาที่ต้องมีการปะทะหรือเสี่ยงต่อการกระทบกระแทกบริเวณใบหน้าและช่องปาก ควรสวมใส่ Mouth Guard ในช่วงฝึกซ้อมหรือแข่งขัน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องมือจัดฟันและฟันของคุณ

สิ่งที่ “ควรหลีกเลี่ยง” ในช่วงจัดฟัน:

  1. อาหารแข็ง เหนียว กรอบ หรือชิ้นใหญ่เกินไป: อาหารเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องมือจัดฟัน เช่น เหล็กหลุด ลวดงอ หรือ Bracket แตก หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง (เช่น น้ำแข็ง ถั่วแข็ง), อาหารเหนียว (เช่น หมากฝรั่ง ตังเม), อาหารกรอบ (เช่น ข้าวเกรียบแข็ง), และ อาหารชิ้นใหญ่ (ควรตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนรับประทาน)

  2. โซดา น้ำอัดลม และขนมหวาน: เครื่องดื่มและอาหารเหล่านี้มีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งเป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของ ฟันผุ และปัญหา เหงือกอักเสบ ควรงดหรือจำกัดการบริโภค โซดา น้ำอัดลม และขนมหวาน

  3. พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม: อย่ากัดเล็บ เคี้ยวน้ำแข็ง หรือใช้ฟันงัดเปิดขวด พฤติกรรมเหล่านี้สามารถสร้างแรงกดที่ไม่เหมาะสมต่อเครื่องมือจัดฟันและฟันของคุณ ทำให้เครื่องมือเสียหาย หรือฟันเคลื่อนที่ผิดทิศทาง

การดูแลตัวเองอย่างดีในช่วงจัดฟันจะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ และช่วยให้คุณมีสุขภาพช่องปากที่ดีไปพร้อมๆ กับรอยยิ้มที่สวยงาม หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง อย่าลังเลที่จะสอบถามทีมทันตแพทย์ที่เฮย์สไมล์ ปรึกษาฟรี!

ดูแลตัวเองอย่างไร สำหรับคน จัดฟัน ให้ฟันสวย สุขภาพดีตลอดการรักษา
ดูแลตัวเองอย่างไร สำหรับคน จัดฟัน ให้ฟันสวย สุขภาพดีตลอดการรักษา

5 สิ่งที่คนอยาก “จัดฟัน” ต้องรู้! เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนฟันสวย มั่นใจกว่าเดิม

1. “จัดฟันแฟชั่น” VS “จัดฟันจริง”: เข้าใจความแตกต่าง ก่อนตัดสินใจ

หลายคนอาจเคยเห็นการ “จัดฟันแฟชั่น” ที่มีราคาเริ่มต้นเพียงหลักพันบาท และอาจเกิดความสงสัยว่าแตกต่างจากการ “จัดฟัน” จริงๆ อย่างไร สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ การจัดฟันแฟชั่นไม่ได้มีผลลัพธ์ในการแก้ไขโครงสร้างฟันหรือการสบฟัน เป็นเพียงการติดเครื่องมือเพื่อความสวยงามและความพึงพอใจส่วนตัวเท่านั้น

ในทางตรงกันข้าม การจัดฟันจริงๆ เป็นกระบวนการทางทันตกรรมที่สามารถ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างฟัน การเรียงตัว และรูปหน้า ของคุณได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ “จัดฟัน” ควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าคุณต้องการแก้ไขปัญหาฟันที่มีอยู่ หรือเพียงต้องการตามกระแสแฟชั่น

2. ด่านแรกสู่ฟันเรียงสวย: “เคลียร์ช่องปาก” ให้พร้อมก่อนเริ่ม

กว่าที่คุณจะได้เริ่มต้น “จัดฟัน” จริงๆ ทันตแพทย์จะให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของช่องปาก หรือที่เรียกว่า เคลียร์ช่องปาก” ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณจะต้องเข้ารับการตรวจช่องปากอย่างละเอียด เพื่อแก้ไขปัญหาฟันที่มีอยู่ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็น:

  • ฟันผุ: อุดฟันเพื่อป้องกันการลุกลาม
  • หินปูน: ขูดหินปูนเพื่อสุขภาพเหงือกที่ดี
  • รักษารากฟัน: ในกรณีที่ฟันมีปัญหาถึงโพรงประสาทฟัน
  • ผ่าฟันคุด: หากฟันคุดอาจส่งผลกระทบต่อการจัดฟัน

การ “เคลียร์ช่องปาก” ให้เรียบร้อยก่อน “จัดฟัน” จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด

3. หัวใจสำคัญของการจัดฟัน: “ทำความสะอาดช่องปาก” อย่างสม่ำเสมอ

เมื่อคุณใส่เครื่องมือ “จัดฟัน” แล้ว การดูแลรักษาความสะอาดช่องปากจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เศษอาหารสามารถเข้าไปติดบริเวณเหล็กจัดฟันและยางรัดได้ง่าย ทำให้เกิดคราบพลัคสะสมบนผิวฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุและโรคเหงือก

ดังนั้น คุณจำเป็นต้องแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร และใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปากเพิ่มเติม เช่น ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน เพื่อให้มั่นใจว่าช่องปากของคุณสะอาดและปราศจากเศษอาหาร

4. วางแผนเวลาให้ดี: “พบแพทย์” ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ

การ “จัดฟัน” เป็นกระบวนการรักษาที่ต้องอาศัยความละเอียดและความต่อเนื่อง ทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาฟันของแต่ละบุคคล ซึ่งมีระยะเวลาและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน

สิ่งสำคัญคือ คุณต้องมีเวลาและสามารถมาพบทันตแพทย์ตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้ทันตแพทย์สามารถปรับเครื่องมือและติดตามผลการรักษาได้อย่างใกล้ชิด การไม่มาตามนัดอาจส่งผลต่อระยะเวลาและประสิทธิภาพของการจัดฟัน

5. “รีเทนเนอร์” คือสิ่งจำเป็นหลังจัดฟัน

เมื่อสิ้นสุดกระบวนการ “จัดฟัน” และคุณได้มีฟันที่เรียงสวยงามตามต้องการแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การใส่รีเทนเนอร์ ตามคำแนะนำของทันตแพทย์

การไม่ใส่รีเทนเนอร์อย่างเคร่งครัด อาจทำให้ฟันค่อยๆ เคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิมก่อนการจัดฟัน ทำให้ความพยายามและเวลาที่เสียไปในการจัดฟันนั้นสูญเปล่า รีเทนเนอร์จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยคงสภาพฟันที่จัดเรียงแล้วให้สวยงามอย่างถาวร

จัดฟัน ใกล้ฉัน ที่ไหนดี ? 6 เคล็ดลับเลือกคลินิกจัดฟันให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การตัดสินใจเลือก คลินิกจัดฟัน ที่จะดูแลรอยยิ้มของคุณเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่มีคุณภาพและตรงใจ นี่คือ 6 สิ่งที่คุณควรพิจารณาในการเลือก คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ หรือคลินิกอื่นๆ ที่คุณสนใจ:

  1. ความหลากหลายของตัวเลือกในการจัดฟัน: คลินิกที่ดีควรมีทางเลือกในการรักษาที่หลากหลาย เพื่อให้คุณสามารถเลือกชนิดของการ จัดฟัน ที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพฟันและความต้องการของคุณ ที่ คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ เรามีบริการ จัดฟัน ครบวงจร ตั้งแต่ จัดฟันแบบโลหะ, จัดฟันแบบเซรามิก, จัดฟัน Self-Ligating (เช่น Damon และอื่นๆ), ไปจนถึง จัดฟันใส (เช่น Invisalign) นอกจากนี้ เรายังมีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการดูแลเคส จัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร มั่นใจได้ว่าทุกความต้องการของคุณจะได้รับการตอบสนอง

  2. จัดฟัน ราคา ที่สมเหตุสมผล: แม้ว่าใครๆ ก็ต้องการ จัดฟันราคาถูก แต่คุณภาพของอุปกรณ์และเครื่องมือทางทันตกรรมที่ดีมักมีราคาสูง การเลือก คลินิกจัดฟัน ที่มีราคาปานกลาง ไม่ถูกหรือแพงจนน่าสงสัย เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงการจัดฟันแฟชั่น หรือการ จัดฟัน ที่ไม่ได้ดำเนินการโดยทันตแพทย์ เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาว เลือก จัดฟันแท้ กับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ เพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและปลอดภัย

  3. ความสะดวกในการเดินทาง: สำหรับการ จัดฟัน โดยเฉพาะแบบติดเครื่องมือ คุณจะต้องเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกเดือน ดังนั้นการเลือก คลินิกจัดฟันใกล้ฉัน ที่เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะอยู่ใกล้บ้าน ที่ทำงาน หรือเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ (เช่น BTS, MRT) หรือรถยนต์ส่วนตัว (มีที่จอดรถ) เป็นสิ่งสำคัญ ที่ คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ เดินทางง่ายเพียง 5 นาที จาก BTS อโศก หรือ MRT สุขุมวิท พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับคุณ

  4. รีวิวจากคนไข้ท่านอื่น: ความคิดเห็นและรีวิว จากผู้ที่เคยเข้ารับบริการจริงเป็นข้อมูลที่มีค่าในการตัดสินใจเลือก คลินิกจัดฟัน คลินิกที่ได้รับการชื่นชมและมีรีวิวที่ดี มักเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงคุณภาพการรักษาและการบริการที่คุณจะได้รับ คุณสามารถอ่านรีวิวจากคนไข้ของ คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ ได้ทั้งบนเว็บไซต์, Facebook หรือ Google Maps เพื่อประกอบการตัดสินใจ

  5. การปรึกษาทันตแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย: การเข้าไปปรึกษาทันตแพทย์ โดยตรงจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและตอบข้อสงสัยต่างๆ ได้ ที่ คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ สามารถนัดหมายเพื่อปรึกษาทันตแพทย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อประเมินสภาพฟัน รับฟังแผนการรักษาเบื้องต้น และพูดคุยกับคุณหมอ หากคุณพอใจกับการเดินทาง การบริการ และความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ คุณสามารถตัดสินใจเข้ารับการ จัดฟัน ในภายหลังได้

  6. มีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านอื่นๆ: ในบางกรณี การ จัดฟัน อาจต้องมีการรักษาทางทันตกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย การเลือก คลินิกจัดฟัน ที่มี ทันตแพทย์เฉพาะทาง ครบทุกสาขา จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ครอบคลุมและดีที่สุดสำหรับทุกปัญหาในช่องปาก ที่ คลินิกทันตกรรมเฮย์สไมล์ เรามีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางทุกด้าน พร้อมดูแลทุกเคสของคุณอย่างมืออาชีพ เพื่อการดูแลอย่างครบวงจร

จัดฟัน ใกล้ฉัน ที่ไหนดี 6 เคล็ดลับเลือกคลินิกจัดฟันให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
จัดฟัน ใกล้ฉัน ที่ไหนดี ? 6 เคล็ดลับเลือกคลินิกจัดฟันให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

จัดฟันหน้าเปลี่ยนไหม?

อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ระยะเวลาในการจัดฟันนานแค่ไหน?

โดยเฉลี่ย 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพฟัน

จัดฟันครั้งแรกเจ็บไหม?

อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยในช่วงแรกและหลังปรับเครื่องมือ

จัดฟันครั้งแรกกินอะไรได้บ้าง?

ควรกินอาหารอ่อนนุ่ม

จัดฟันได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

สามารถทำได้ทุกวัย แต่ช่วง 10-14 ปีเป็นช่วงที่เหมาะสม

จัดฟันต้องถอนฟันไหม?

ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของทันตแพทย์

ผลงานจัดฟันของทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่เฮย์สไมล์

ฟันห่าง 1
ฟันห่าง 2
ฟันซ้อน
ฟันสบไม่ปกติ
ฟันล่างคร่อมฟันบน
ยิ้มเห็นเหงือกเยอะ
ฟันยื่น
ฟันซ้อน 2
ฟันเก
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ จัดฟัน เพิ่มเติมที่นี่

คลินิกทันตกรรม HeySmile (อโศก)

สอบถาม/จองคิวนัดหมายที่

วิธีเดินทาง
รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT : สถานีสุขุมวิท ทางออกที่ 1 เดินตรง 4 นาที คลินิกอยู่ด้านซ้ายมือ

รถไฟฟ้า BTS : สถานีอโศก ทางออกที่ 3 เดินไปทางรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท คลินิกติดถนนใหญ่อยู่ใกล้ตึกเสริมมิตร

พร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่องฟัน

HeySmile ยินดีให้คำปรึกษาทางทันตกรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจัดฟัน อุดฟัน ทำฟัน รักษารากฟัน หรือทันตกรรมอื่นๆ เราพร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ


คลินิกทำฟัน ปรึกษาฟรี Heysmile
บทความที่เกี่ยวข้อง